Your cart is currently empty!
[รีวิว] หมูสะเต๊ะอพอลโล สาขาบรรทัดทอง
ในคืนวันจันทร์ที่ฝนตกพรำ ผมขับรถพาแฟนไปละแวกถนนบรรทัดทอง ซึ่งเป็นย่านของกินกลางคืนที่กำลังเป็นที่นิยมในช่วงนี้
จุดประสงค์จริงๆ เราจะมาดูร้านค้าต่างๆในวันธรรมดาที่มีฝนตก จะเป็นยังไงบ้าง และวันนี้ก็ได้มาลองหมูสะเต๊ะอพอลโล ที่แฟนบอกว่าพ่อเคยพาไปกินที่ชลบุรีสมัยนางยังเด็กๆด้วย
ถนนบรรทัดทองในคืนวันจันทร์ที่ฝนตกพรำๆ ผมขับรถผ่านไป เห็นยังมีผู้คนเดินอยู่ริมถนนบ้าง บางร้านมีคนนั่งจนแน่น ในขณะที่บางร้านไม่มีคนนั่งเลย
เราขับรถเข้าไปจอดในซอยเล็กๆ ข้างร้านหมูสะเต๊ะอพอลโล โชคดีที่วันนี้ได้ที่จอดรถข้างถนนในซอยหน้าร้านอาหารตามสั่ง แฟนลงไปกะจะสั่งข้าวผัดกะเพราซะหน่อยเพราะเกรงใจเจ้าของร้าน แต่ร้านปิดซะก่อน
พอจอดรถได้แล้ว เราเดินมาที่ร้านหมูสะเต๊ะอพอลโล
ร้านอพอลโลที่บรรทัดทองเป็นร้านตึกแถว 1 ห้อง อยู่หัวมุมถนนที่ซอยจุฬา 16 ตัดกับซอยจุฬา 3 มีเตาย่างหมูอยู่ริมถนนซอย 16 กำแพงวาดเป็นรูปอากงกับอาม่าอยู่ด้านข้าง และประตูทางเข้าก็อยู่ข้างๆกัน
เข้าไปข้างในร้านจะเจอโต๊ะหินขาเหล็กหล่อ กับม้านั่งไม้ มีแอร์เปิดอยู่ในบรรยากาศเงียบสงบที่ยังไม่มีลูกค้าในร้านเลย เราเป็นเป็นลูกค้าโต๊ะเดียวในร้าน
เวลาที่ไปถึงร้านก็เป็นช่วงค่ำประมาณสองทุ่มครึ่ง ลูกค้าอาจจะหมดไปแล้วรอบนึง แฟนก็คุยเพื่อสอบถามเมนู ตอนที่ไปนั้นตับสะเต๊ะหมดแล้ว ขนมปังหมดแล้ว และฮ่อยจ๊อปูไส้ทะลักก็หมดไปแล้วเช่นกัน เราเลยสั่งหมูสะเต๊ะมา 10 ไม้ เป็นเนื้อล้วนและเนื้อผสมมัน และสั่งฮ่อยจ๊อปูมา 5 ลูก ลูกละ 32 บาท
ระหว่างที่นั่งรออาหารที่สั่ง เรารู้สึกเย็นมากเหมือนกันเพราะแอร์เป่ามาหาเราตรงๆเลย แถมเป็นช่วงที่ฝนตกด้วย และเราจะได้ยินเสียง noti จากแอพเดลิเวอรี่อยู่เรื่อยๆ ดีนะ เค้าเริ่มขายดีขึ้นแล้วล่ะ อยากให้ขายดีขึ้นเรื่อยๆนะ อาหารจานแรกที่มาเสิร์ฟก็เป็นฮ่อยจ๊อปู มาพร้อมกับซอสบ๊วยรสหวาน
ฮ่อยจ๊อลูกไม่ใหญ่กำลังพอดี มีไส้ปูขาวๆ เป็นมัดๆ ตามสไตล์ของฮ่อยจ๊อชั้นดี กินคู่กับน้ำจิ้มถือว่าดีมาก
นั่งกินไปถ่ายรูปไป ซักพักมีพนักงานเอาขนมปังเข้ามาในร้าน แฟนเห็นปุ๊บเลยสั่งขนมปังมาเพิ่มอีก 2 แผ่น และในเวลาอีกไม่นาน หมูสะเต๊ะก็ถูกเสิร์ฟครับ
ชุดหมูสะเต๊ะมีอยู่ 4 อย่างตามวิถีของหมูสะเต๊ะที่ควรจะเป็น หมูสะเต๊ะ น้ำจิ้มถั่ว อาจาด และขนมปังปิ้งที่ถูกตัดแบ่งเป็นชิ้นพอดีคำ ผมก็จัดวางจานเพื่อถ่ายรูปก่อน แต่ก็มีคนรีบหยิบหมูไปกินก่อนแล้ว 1 ไม้ (ดูในรูปก็จะเห็นไม้เสียบหมูเปล่าๆ วางไว้บนจานครับ)
เมื่อถ่ายรูปเสร็จก็ถึงเวลาลองกินหมูสะเต๊ะ ผมเริ่มจากเนื้อหมูล้วนก่อน เนื้อหมูที่ได้ มีความแน่นแต่ไม่แข็ง ไม่แห้งจนเกินไป จิ้มกับน้ำจิ้มถั่ว ก็จะมีรสชาติไม่หวานจนเลี่ยน มีรสของถั่วที่เข้มข้นจนรู้สึกได้
กินหมูไปหมดหนึ่งไม้ ก็ตามด้วยอาจาดซึ่งก็คือ แตงกวา หอมแดงและพริกที่ถูกดองด้วยน้ำส้มสายชู ส่วนตัวผมจะกินแค่แตงกวาเท่านั้น ร้านนี้เค้าตักอาจาดใส่จานก้นแบนมา ถ้าเป็นร้านอื่นเค้าจะตัดใส่มาเป็นถ้วยเลย ซึ่งก็แปลกตาไปและน้ำส้มสายชูก็ไม่เยอะจนแตงกวาและหอมแดงลอยไปลอยมาในถ้วย ผมก็เอาไม้มาเสียบกินได้ง่ายไม่ต้องเล่นเกมแทงแตงกวากัน
กินไปด้วยก็แอบดูสภาพภายในฮวงจุ้ยของร้านไปด้วยเพราะเรียนมาก็เอาเป็นกรณีศึกษาไปด้วยในตัว แฟนก็บอกเดี๋ยวลองกินหมูติดมันนะ แล้วจะชอบ
พอได้ลองกินหมูติดมันเท่านั้นแหละครับ ร้อง “อื้อ!” เลย มันนุ่มมันฉ่ำ มีความมันที่กำลังดี ไม่เลี่ยนเลย สัดส่วนของเนื้อกับมันที่กำลังดี กลมกล่อม
กินไปแล้วดูนู่นดูนี่ไป หันมาอีกที อ้าวฮ่อยจ๊อที่สั่งมา 5 ลูกทำไมเหลือลูกเดียว ในใจคิดคำนวณคร่าวๆ เราก็กินไปแค่ลูกเดียวเองนะ แฟนก็สารภาพว่ากินไปหมดแล้ว จริงๆ มื้อนี้ผมกินด้วยความยากลำบากนะ เพราะกินมาแล้วก่อนหน้านี้ แต่ก็ค่อยๆกินไปเรื่อยๆ
สุดท้ายเหลือแต่ขนมปัง เราก็แน่นพอสมควรแล้ว ก็ค่อยๆเอาจิ้มน้ำจิ้มกินไป แฟนเล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนไปกับพ่อนางที่ชลบุรี ต้องสั่งน้ำจิ้มเพิ่มเลยนะ เพราะจิ้มแต่ละที น้ำจิ้มชุ่มๆ อร่อยมาก
สรุปจบมื้อนี้จ่ายไป 260 บาทครับ แฟนมีแอบแนะนำน้องผู้ชายเรื่องตำแหน่งของประตูร้านไปหน่อยนึง (น่าจะเป็นคนในครอบครัวเจ้าของร้าน) นางอยากให้ร้านอร่อยๆอยู่ได้นานๆ แถมเป็นร้านอร่อยเก่าแก่ของบ้านนางด้วยครับ
สั่งเดลิเวอรี่ได้นะครับ
LINEMAN: https://www.wongnai.com/delivery/businesses/2588854MV/order
Grab Food: https://r.grab.com/g/6-20240927_200125_ff81c4672016211c_MEXMPS-3-C6KDCA5XJJVARJ
Leave a Reply