ด้วยความคิดถึง กิมจิ หมาที่รัก

ads

โพสต์นี้ผมเขียนถึงหมาผมที่พึ่งตายไปครับ เขียนไว้เพื่อระลึกถึงมัน เล่าความรู้สึกในขณะที่ยังคิดถึงอยู่

หมาของผม กิมจิ ที่อยู่ด้วยกันมา 11 ปี กินนอนในบ้าน นอนด้วยกันแทบทุกคืนตลอด 11 ปี มันพึ่งตายไปได้ 2 วัน ด้วยโรคภูมิคุ้มกันทำลายเกล็ดเลือด ตอนที่เริ่มเขียนโพสต์นี้ น้ำตาก็ซึมอีกแล้ว

กิมจิเป็นหมาที่เรียบร้อย ขี้อ้อน หวงเจ้านาย ไม่ชอบให้คนทะเลาะกัน เวลาผมโดนตีโดนตีทำร้าย มันก็จะเห่าเสียงดังแล้วเข้ามาปกป้องทันที มันสนิทกับทุกคนในบ้าน ปฏิบัติกับแต่ละคนด้วยแอคชั่นที่ต่างกัน เพราะมันเข้าใจว่าแต่ละคนมีสิ่งที่มันต้องการต่างกัน

เวลากลับจากข้างนอกทุกวัน มันจะเห่าต้อนรับ เข้ามากระโจนหา แม้มันจะกระโจนได้ไม่สูงด้วยความขามันสั้น เข้ามาเลียมือ เลียแล้วเลียอีก เลียจนมือชุ่มแทบทุกครั้ง แล้วมันก็จะไปเอาของเล่นโปรดของมันมาเล่นกับผมทุกครั้ง เราเล่นกันมาตลอด 11 ปี ตอนมันเล็กๆ ก็วิ่งเล่นกันได้นานๆ เป็นครึ่งค่อนชั่วโมงเหมือนกับว่าแบตเตอรี่มันจะไม่มีวันหมดอย่างนั้นแหละ

เวลาที่นั่งทำงานอยู่จะชอบเข้ามานอนอยู่ที่เท้า เวลานั่งดูทีวีก็จะชอบมานอนบนตัก เวลานอนตอนกลางคืนก็จะนอนอยู่ข้างๆเตียงฝั่งผมเลย เวลาเช้าถ้ามันต้องการอะไรมันจะเข้ามาเลียหน้าผมเพื่อปลุกผม

กิมจิอยู่กับคนมานานมาก มากจนเวลาไปเจอหมาตัวอื่นกิมจิจะทำตัวไม่ถูก กิมจิจะยอมให้หมาตัวใหญ่ เก่งกับหมาตัวเล็ก เคยไปกัดหูหมาตัวอื่นด้วยตอนที่เอากิมจิไปฝากเค้าเลี้ยงน่ะ หลังๆ ก็จะเอาไปฝากเลี้ยงที่เค้าเลี้ยงรวมไม่ได้แล้ว

กิมจิไม่มีแฟนนะ มีแต่หมาคอร์กี้ที่ปิ๊งๆ กันอยู่ตอนได้เจอกัน เลมอนนี่ไปเจอตอนที่เอาไปฝากเค้าเลี้ยง และแซลมอนก็เป็นหมาคอร์กี้ที่อยู่หมู่บ้านเดียวกัน เวลาพากิมจิไปเดินในหมู่บ้านแล้วเจอแซลมอน กิมจิจะเดินตามแซลมอนตลอดเลย จะเห็นพฤติกรรมหมาเราก็ตอนที่พาไปเจอหมาอื่นเองเนี่ยแหละ ส่วนใหญ่จะอยู่แต่ในบ้านน่ะ มีอยู่ทีนึง ที่บ้านเล่าให้ฟังว่าแซลมอนมาหากิมจิถึงหน้าบ้านเลย เราก็แปลกใจอยู่เหมือน

ในหมู่บ้านนะ กิมจิมีศัตรูกับเค้าไปหลายบ้านเลยนะ ไม่ว่าจะคูก้า หมาซามอยด์ซอยใกล้ๆ มันปากเปราะมาก เห่าทุกครั้งที่พากิมจิเดินผ่าน แถมเห่าดังจนน่ารำคาญ ตอนแรกที่เจอกันก็ดีๆอยู่หรอก เจอกันตอนแรกก็ดมๆกันอยู่ ไม่รู้ว่ากิมจิไปข่มมันตอนไหน อีกบ้านนึงมีหมาชื่อโซบะ เจ้าโซบะจริงๆ เป็นเพื่อนที่เวลาผ่านไปหน้าบ้านก็ดมๆกันตลอด จนไอ้กิมไปข่มไปขี่เค้าน่ะแหละ ตั้งแต่นั้นเค้าก็ไม่ญาติด้วยอีกเลย เห่าทุกครั้งที่ผ่านหน้าบ้านเหมือนกัน

คู่กรณีของกิมจิอีกตัว จัสเปอร์ ไซบีเรียนฮัสกี้ ตัวนี้ก็มีปัญหาการเข้าสังคมอยู่เหมือนกัน ผมกับเจ้าของของจัสเปอร์ก็คุยกันดีอยู่ไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน แต่จัสเปอร์ก็จะขย้ำกิมจิอยู่ เลยไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่ เวลาเจอกันข้างนอกก็จะเห่าใส่กันอยู่ เลยต้องดึงๆให้ห่างกันบ้าง แถมบ้านนี้เค้ามีหมาเฟรนช์บูลด็อกมาเพิ่มอีกนะ ชื่อจาร์วิส เจ้าจาร์วิสนี่ผมเปรียบมันเป็นจรวดทางเรียบเลยนะ เคยเจอมันหลายที พอมันจะพุ่งมาหากิมจิเลย ตอนที่มาใหม่ๆ ปลอกคอเอามันไม่อยู่นะ เพราะปลอดคอมันหลวม มันจะวิ่งดุ๊กๆๆ มาหากิมจิ เข้ามากัดที่ขาเลยนะ แต่มาดูอีกทีกัดไม่เข้า เจ้าของเค้าก็บอก ไอ้จาร์วิสเนี่ยมันไม่มีฟัน ช่วงก่อนกิมจิตาย ก็ได้เจอบ้านนี้อีกตอนพากิมจิเดิน แฟนผมเค้าคุยถึงอาการป่วยของกิมจิ ก็เลยได้รู้ว่าจัสเปอร์มันก็ตายไปแล้ว เป็นโรคภูมิคุ้มกันทำลายเกล็ดเลือดเหมือนกับของกิมจิ

วีรกรรมอันนึงของกิมจิ คือตอนที่ผมพาเดินในหมู่บ้าน ช่วงแรกผมมันจะปล่อยสายจูงให้มันเดินไปเอง แล้วเดินตาม เพราะช่วงนั้นผมมักจะพาเดินตอนดึกๆ หลังเที่ยงคืนไปแล้ว แต่วันนั้น ผมปล่อยกิมจิทิ้งช่วงห่างไปไกลเกินไป เดินตามก็ได้ยินเสียงกรี๊ดโวยวาย รีบตามมาดูไอ้กิมมันไปจู่โจมหมาชิบะตัวนึงในหมู่บ้าน ของเค้า เค้าถือสายจูงอยู่นะ ตอนที่มาเห็นเนี่ยหมากำลังชุลมุนกันอยู่เลย แต่จบที่หมาเราโดนฝังเขี้ยวที่ข้อเท้าแฮะ เราต้องมาจับแยกกัน เคสนั้นต้องพากิมจิไปหาหมอหมดไปเป็นหมื่น ตั้งแต่นั้นมาเวลาจะพาเดินก็เลยต้องมีสายจูงตลอดไม่ว่าจะดึกแค่ไหน เฮ้อกิมจิ..จะไปเล่นเค้าแต่โดนเค้าเล่นซะเอง

ตอนที่กิมจิตาย ครอบครัวทุกคนเศร้า ร้องไห้กันหมด ร้องไห้มากน้อยก็แล้วแต่ แต่ละคนไม่เหมือนกัน แฟนผมจะหนักสุด เค้าเป็นคนที่อินได้ง่าย ทำความเข้าใจความรู้สึกคนได้ง่าย แถมกิมจิยังเป็นหมาที่ใกล้ชิดกับเรามากๆ เรียกได้ว่าอยู่ด้วยกันตลอด แฟนผมก็เลยร้องไห้หนักมากๆ จนเค้าปวดหัว ส่วนผมก็ร้องไห้เยอะเหมือนกัน แต่เราพยามแล้วนะพยามไม่ร้องเพราะมีเรื่องต่างๆที่เราต้องทำต่อ ต้องคอยปลอบแฟนด้วย ลูกชายสองคน คนเล็กก็ร้องไห้เหมือนกันแต่ก็ไม่มาก ส่วนลูกคนโต เค้าไม่ร้องไห้เลยนะ แต่ผมสังเกตุดูเค้า เค้าจะพูดอะไรให้ดูตลกอยู่ตลอด เรารู้สึกว่าเค้ากำลังทำอะไรบางอย่างเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึก เลยบอกเค้าไปว่า ไม่เป็นไรลูก ร้องไห้ออกมาเลยก็ได้ แต่เค้าก็บอกเค้าไม่ร้องไห้เองไม่รู้เป็นอะไร ก็ไม่เป็นไร เรารู้แล้วว่าเค้าก็เศร้าเหมือนกัน เพราะเห็นว่าเค้าอาสาที่จะอุ้มกิมจิไปที่หลุมเอง ก่อนเค้าจะไปเรียนเค้าไปหากิมจิก่อน กลับมาก็ไปหากิมจิอีกโดยที่เราไม่ได้บอก

สำหรับเรื่องความเศร้า เรื่องการร้องไห้นี่ แฟนผมเค้าทุกข์มากเศร้ามาก เค้าถามผมว่าเค้าจะผ่านมันไปได้ยังไง ผมได้แต่บอกเค้าว่า ร้องไปเถอะ ร้องไปเลย เศร้าไปให้เต็มที่ แต่ยังไงชีวิตก็ต้องไปต่อ พรุ่งนี้เราก็มีเรื่องอื่นที่ต้องทำ มีงานที่ต้องทำ มีครอบครัวที่ต้องดูแล ในแต่ละวันเรามีเรื่องที่คิดกว่า 50,000 เรื่อง เมื่อเราคิดเรื่องอื่นแล้วก็ไม่ได้คิดถึงกิมจิก็ไม่เศร้า พอเรามาคิดถึงกิมจิอีกเราก็เศร้าอีก ก็ไม่เป็นไร คืนนั้นเค้าบอกว่าเค้าอาจจะนอนไม่หลับ ผมก็ชวนเค้าคิด เออพรุ่งนี้เธอมีนัดไม่ใช่หรอ จะเบี้ยวนัดเค้าได้ใช่มั้ย แฟนผมเค้าก็ เออ ใช่ ต้องไปแฮะ แล้วเราก็ทำนู่นทำนี่แล้วก็นอนไป ผมก็ไม่รู้หรอกว่าเค้าจะยังคิดถึงกิมจิอยู่จนนอนไม่หลับรึเปล่า แต่ตอนเช้าเค้าก็ตื่นขึ้นได้แล้วก็ไปทำธุระที่ต้องทำต่อไป

สำหรับผมเอง ไม่ใช่ว่าไม่เศร้าเลย ในขณะที่พิมพ์อยู่ตอนนี้น้ำตาก็ซึมอยู่เป็นระยะเพราะคิดถึงกิมจินี่แหละ ตอนที่กิมจิตาย ผมรีบกลับไปที่บ้าน ไปกอดหมาร้องไห้ แต่แล้วก็ต้องหยุดร้อง เพราะเราต้องไปเตรียมขุดหลุมในสวนของบ้าน รีบขุดตามฤกษ์ที่ดูเอาไว้ (ความเชื่อเรื่องฤกษ์ยามส่วนตัวนะครับ ดูฤกษ์เอง) เราขุดหลุมเพื่อฝังหมาของเราเอง ตอนที่ขุดก็ไม่ได้ร้องไห้แล้วเพราะสมองเราคิดแต่ว่าจะขุดให้เสร็จเพื่อพาหมาเรามานอน พอทำนู่นทำนี่เสร็จ ก็ต้องมานั่งเตรียมงานสำหรับวันรุ่งขึ้นอีก เราเศร้าเสียใจได้ แต่เราก็มีเรื่องอื่นๆ ที่ต้องทำอีก วันรุ่งขึ้นก็ต้องตื่นมาวิดพื้นเหมือนทุกวัน และไปทำงานเพราะเมื่อวานที่บริษัทมีงานสำคัญที่ต้องมาดูอีก

โพสต์นี้ก็คงเท่านี้ครับ เขียนเอาไว้เพื่อเล่าถึงหมาของตัวเอง และอยากบันทึกความรู้สึกเอาไว้ครับ

แปะเพิ่ม: การระลึกถึงทำให้นึกถึงเพลงเลยครับ

ads
ads
ads
ads

Posted

in

by

Tags:

Comments

Leave a Reply

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save